วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

Networking

เน็ตเวิร์ค (Networking)

          ระบบปฏิบัติการมีหน้าที่เพิ่มเติมในการจัดการทางด้านเน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะแบบกระจายที่เป็นการทำงานของโปรเซสเซอร์ที่ไม่มีการแชร์หน่วยความจำ, ดีไวซ์ต่าง ๆ , หรือแม้แต่สัญญาณนาฬิกา โดยที่แต่ละโปรโซสเซอร์จะมีหน่วยความจำ และสัญญาณนาฬิกาเป็นของตัวเองและมีการติดต่อระหว่างโปรเซสเซอร์ผ่านทางสายสื่อสาร โดยใช้ระบบบัสที่มีความเร็วสูง หรืออาจจะใช้คู่สายโทรศัพท์สาย UTP ก็ได้

          โปรเซสเซอร์ในระบบจะเชื่อมต่อผ่านเน็ตเวิร์คซึ่งสามารถปรับแต่งได้หลายรูปแบบ การออกแบบเน็ตเวิร์คจะต้องคำนึงถึงเส้นทางการเดินของข้อมูล, จุดเด่นจุดด้อยในการเชื่อมต่อแบบนั้น, ข้อผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ระบบป้องกัน(Protecion System) 
          ระบบปฏิบัติการจำเป็นต้องมีการป้องกันในกิจกรรมหรือโปรเซสที่อาจจะเกิดข้อผิดพลาดได้ เช่น ระบบที่มีการเบิกถอนเงินในสาขาต่าง ๆ พร้อมกัน เป็นต้น จุดประสงค์หลักของการนี้จะต้องมีกลไกที่ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า ทั้งไฟล์, หน่วยความจำ, ซีพียู, และรีซอร์สอื่นๆ จะมีโปรเซสเกิดขึ้นได้เฉพาะคนที่ได้รับอนุญาตจากระบบเท่านั้น

          คำว่าการป้องกัน หมายถึงกลไกที่ใช้ในการควบคุมการแอ็กเซสโปรแกรม, การโปรเซสและควบคุมผู้ใช้จากดีไวซ์ที่กำหนดโดยระบบคอมพิวเตอร์ กลไกนี้จะต้องกำหนดคุณสมบัติของการควบคุมและการบังคับอีกด้วย รีซอร์สที่ไม่ได้มีการป้องกันจะไม่สามารถป้องกันการใช้งานจากผู้ใช้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ได้ ดังนั้นระบบป้องกันก็คือระบบที่ควบคุมการใช้งานจากผู้มีสิทธิ์ และไม่มีสิทธิ์

ระบบตัวแปลคำสั่ง           ตัวแปลคำสั่งนี้เป็นการอินเทอร์เฟซระหว่างผู้ใช้กับระบบปฏิบัติการ บางระบบปฏิบัติการจะมีตัวแปลคำสั่งอยู่ใน kernel เลย แต่ในบางระบบ เช่น DOS และ UNIX จะมีโปรแกรมพิเศษที่รันเมื่องานเริ่มต้น หรือเมื่อผู้ใช้เริ่มล็อกเข้าระบบครั้งแรก โดยในคำสั่งส่วนใหญ่จะมีคอนโทรลสเตทเมนต์ที่คอยส่งไปให้ระบบปฏิบัติการ เมื่อเริ่มงานใหม่ในแบบงานแบ็ตซ์ หรือเมื่อผู้ใช้ล็อกเข้าระบบจะมีการเอ็กซิคิวซ์โปรแกรมที่อ่านและแปลคำสั่งคอนโทรบสเตทเมนต์อย่างอัตโนมัติ คนทั่วไปรู้จักในชื่อ shell จะมีฟังก์ชันที่ธรรมดามากคือ “นำคำสั่งต่อไปเข้ามาเอ็กซิคิวต์”

เซอร์วิสของระบบปฏิบัติการ (Operating System Services) เซอร์วิสพื้นฐานที่น่าสนใจของระบบปฏิบัติการมีดังนี้

  • การเอ็กซิคิวต์โปรแกรม ระบบจะต้องโหลดโปรแกรมและข้อมูลลงสู่หน่วยความจำก่อนใช้งาน และจะสิ้นสุดการเอ็กซิคิวต์ได้ตามปกติ ถ้าผิดพลาดจะแสดงแมสเสจแจ้งเตือน 
  • การปฏิบัติกับอินพุต/เอาต์พุต ระบบอาจจะความต้องการติดต่อหรือต้องการใช้อินพุต/เอาต์พุต หรือใช้ดีไวซ์พิเศษ 
  • การจัดการกับระบบไฟล์ สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการ 
  • การติดต่อสื่อสาร จะช่วยสื่อสารระหว่างโปรเซส การสื่อสารอาจจะใช้หน่วยความจำที่แชร์อยู่ หรืออาจใช้เทคนิคที่เรียกว่า “แมสเสจพาสซิง” ซึ่งเป็นการย้ายเพ็กเกจของข้อมูลระหว่างโปรเซสในระบบปฏิบัติการ 
  • การตรวจจับข้อผิดพลาด ช่วยป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ระบบปฏิบัติการจะแสดงแอ็กชันที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขให้ต่อไป 
  • การแชร์รีซอร์ส ในกรณีมีงานเข้ามาหลายงานในเวลาเดียวกัน ระบบปฏิบัติการจะต้องการมีแชร์รีซอร์สให้เหมาะสม มีฟังก์ชันสำหรับจัดเวลาของซีพียู 
  • การป้องกัน ระบบปฏิบัติการจะให้อำนาจในการใช้รีซอร์สในลักษณะรหัสผ่าน 

System Calls 

System Calls จัดเป็น 5 กลุ่มหลักคือ

  • การควบคุมโปรเซส กลุ่มนี้เป็นการควบคุมโปรเซสทั้งหมด ขณะที่กำลังเอ็กซิคิวต์โปรแกรมอยู่นั้นอาจจะต้องการหยุดโปรเซสในลักษณะการหยุดปกติ, การหยุดแบบไม่ปกติ, โหลดข้อมูลเพิ่มเติม ฯลฯ 
  • การจัดการกับไฟล์ จะจัดการเกี่ยวกับไฟล์ทั้งหมด 
  • การจัดการดีไวซ์ กลุ่มนี้เป็นการจัดการดีไวซ์ในระบบเมื่อมีโปรเซส ระบบอาจจะเรียกใช้ดีไวซ์เพิ่มเติม 
  • การบำรุงรักษาข้อมูล กลุ่มนี้จะตอบสนองงานหลักของระบบปฏิบัติการ ในระบบส่วนใหญ่จะมีการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างผู้ใช้กับระบบปฏิบัติการ 
  • การติดต่อสื่อสาร การติดต่อสื่อสารระหว่างโปรเซสมี 2 รูปแบบ คือระหว่างโปรเซสในระบบคอมพิวเตอร์เดียวกัน และการติดต่อสื่อสารระหว่างระบบคอมพิวเตอร์เข้ามเน็ตเวิร์คเอง กลุ่มนี้จะเป็นการเชื่อมต่อ ,รับ-ส่งแมสเสจ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น